5 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำเลสิก !

หน้าแรก » ความรู้สุขภาพ » 5 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำเลสิก !

5 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำเลสิก !

ถ้าหากคุณ คือ ผู้สนใจทำเลสิก หรือลังเลว่าจะผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยวิธีไหนดี ขอเชิญชวนมาอ่านบทความนี้ที่คุณต้องห้ามพลาดที่จะรู้ !

1 -

การทำเลสิก คืออะไร ?

เลสิก ( LASIK ย่อมาจาก Laser In-situ keratomileusis) เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาผู้ที่มีภาวะสายตาผิดปกติแบบถาวร (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และบางรายแก้ไขสายตาร่วมกับสายตายาวตามอายุ) โดยใช้เครื่องแยกชั้นกระจกตา Microkeratome แยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนากระจกตาทั้งหมดจากนั้นจะใช้เลเซอร์ที่เรียกว่า Excimer Laser ปรับความโค้งของกระจกตาตามค่าสายตาให้กลับมาเป็นปกติเมื่อปรับแล้วจึงปิดผิวกระจกตาให้กลับเข้าที่เดิมโดยไม่ต้องเย็บแผลกระจกตาสามารถติดกันเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีอีกวิธีที่คล้ายกันเรียกว่า PRK หากคุณสงสัยว่า 2 แบบนี้ต่างกันอย่างไร ? สามารถอ่านเพิ่มได้ที่นี่ สรุปให้ Lasik VS PRK ต่างกันอย่างไร คุณเหมาะกับแบบไหนมากกว่า !?

2 -

ใครที่เหมาะกับการทำเลสิก ?

เหมาะสำหรับอายุ 18 ปี ขึ้นไป และไม่ควรเกิน 55 ปี เหตุเพราะ หากคนไข้อายุน้อยกว่า 18 ปี สายตาจะยังไม่คงที่ และยังคงมีการปรับเปลี่ยนของสภาวะร่างกายอยู่ นั่นหมายถึงว่าค่าสายตาอาจจะยังไม่คงที่ ส่วนหากอายุมากกว่า 55 ปี คือ ช่วงอายุที่อาจมีโรคต้อกระจกแทรกซ้อน แต่หากตรวจประเมินแล้วไม่มีอาการดังกล่าวก็สามารถผ่าตัดได้

เหมาะสำหรับผู้มีสายตาสั้น ตั้งแต่ -0.75D ไปจนถึง -12.00D
เหมาะสำหรับผู้มีสายตาเอียง ถึง -5.00D
เหมาะสำหรับผู้มีสายตายาวตั้งแต่กำเนิดถึง +6.00D

3 -

ใครไม่เหมาะกับการทำเลสิก ?

ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี (เนื่องจากค่าสายตายังไม่คงที่) และอายุเกิน 55 ปีขึ้นไป
โรคประจำตัวบางอย่างที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง
ค่าสายตาสั้นมาก ผู้ที่มีสายตาสั้นรวมเอียงแล้วเกินพันสอง หรือ -12.00 D
กระจกตาบางเกินไป (ต่ำกว่า 480) หรือเมื่อวิเคราะห์ค่าสายตาสำหรับการแก้ไขไม่เพียงพอ
กระจกตาแบนหรือโค้งเกินไป เมื่อแก้ไขสายตาแล้ว ความโค้งกระจกตาหลังแก้ไขไม่เหมาะสม
กระจกตามีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเคยติดเชื้อมาก่อน
กระจกตาย้วย หรือกระจกตาโป่ง (Keratoconus)
กระจกตาผิดรูปหรือมีรูปร่างผิดปกติที่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดกระจกตาย้วยในอนาคต
มีโรคอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นจอตา
ในผู้ที่เป็นต้อเนื้อแต่อยากทำเลสิก แนะนำควรรักษาต้อเนื้อให้หายก่อน แล้วจึงนัดมาตรวจประเมิน
ผู้ที่มีภาวะตาขี้เกียจ (Lazy Eye) คือ ผู้ที่มีตาข้างใดข้างหนึ่งมองเห็นได้ไม่ดีเท่าอีกข้างหนึ่ง หรือภาวะที่ความสามารถในการมองเห็นในตาข้างใดข้างหนึ่งด้อยกว่าอีกข้างเมื่อแก้ไขเต็มที่แล้ว ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่

4 -

ผลข้างเคียงในการทำเลสิก ?

สำหรับผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนของเลสิกที่กำลังจะกล่าวถึงนี้เป็นภาวะที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้กับผู้รับการรักษา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย ดังนี้

การติดเชื้อที่แผลผ่าตัด : ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นที่แผลผ่าตัดต่ำมาก และภายหลังจากที่แผลหายเรียบร้อยดี พบว่าความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อในตาข้างนั้น ไม่แตกต่างจากคนที่ไม่เคยทำเลสิก
ปัญหาการมองเห็นในที่มืดหรือเวลากลางคืน ได้แก่ การมองเห็นแสงไฟเป็นแฉกกระจายจ้าจนบดบังสิ่งอื่น โดยรอบหรือเห็นแสงไฟเป็นวงฝ้ารอบดวงไฟ ปัญหาเหล่านี้ พบได้เป็นปกติหลังจากการผ่าตัดไปใหม่ ๆ ภายใน 3 เดือนแรก แล้วค่อย ๆ ลดน้อยลงจนไม่ก่อปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้รับการรักษาบางรายมีโอกาสเป็นอย่างถาวรซึ่งมีโอกาสน้อยกว่า 1%
ตาแห้ง ตามปกติแล้ว หลังผ่าตัดในช่วงแรก ๆ คนไข้บางรายอาจเกิดอาการตาแห้งลงกว่าเดิมแต่เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น